โดยปัจจุบันนี้ เครื่องประดับถือว่าเป็น 1 ในเครื่องแต่งกายที่ต้องมาประดับอยู่บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ต่างหู แหวน หรือ แม้กระทั้งสร้อยข้อมือ กำไล ที่ไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็ใส่เพื่อความสวยงามและใส่เพื่อความมั่นใจในตัวเอง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปี เครื่องประดับมีบทบาทที่สำคัญในสมัยนั้น เพราะเครื่องประดับส่วนใหญ่เน้นใส่เพื่อความงามท่ามกลางธรรมชาติ หรือแม้กระทั้งเพื่อสื่อเป็นนัยยะต่าง ๆ ของการใส่เครื่องประดับ อาทิ เพื่อความปลอดภัย ความสง่างามและความเจริญรุ่งเรือง
1.ของขวัญสุดแสนพิเศษในโอกาสที่พิเศษ
เครื่องประดับถูกจัดว่าเป็นของขวัญที่แสนพิเศษ ที่มักให้ในโอกาสต่าง ๆ ด้วยอัตราการซื้อเครื่องประดับค่อนข้างสูงซึ่งมาพร้อมกับ TREND JEWELRY ทำให้การซื้อมักสูงตามช่วงเวลา โดยส่วนใหญ่คนมักจะให้เครื่องประดับในวัน มงคลสมรส อย่าง แหวนเพชร หรืจะเป็น ของขวัญวันครบรอบ วันเกิด ที่อาจจะให้ของแทนใจกันเป็น “จี้สร้อยคอหัวใจ” หรือ “จี้ตัวหนังสือภาษาอังกฤษ” เพราะด้วยความหมายมันสื่อว่าคนรักของคุณ คือ “คนพิเศษ”
- สำหรับการลงทุน
ความเชื่อที่มีอยู่ว่า การซื้อหรือสะสมเครื่องประดับไว้มากๆ เปรียบเสมียนการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากการฝากเงินที่ธนาคารที่ได้ดอกเบี้ย และอีกช่องทางหนึ่งคือ “เครื่องประดับ” โดยคุณ Alister Clare จาก Credit Capital เคยบอกว่า
“ การซื้อเครื่องประดับที่มีราคาแพง เพื่อเป็นการลงทุน โดยเฉพาะชิ้นที่มีราคาสูง ช่วยให้คุณซื้อในสิ่งที่คุณชอบ แต่ต้องมั่นใจว่า สามารถเชื่อถือได้ ”
แน่นอนว่า เครื่องประดับที่มักน่าลงทุน จะเป็น “เพชร” มองว่าเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างสูง แม้ว่าเศรษฐกิจหรือสังคมที่สวนทางกัน แต่ยังคงมีมูลค่าไว้ ส่วน “ทองคำ” เป็นโลหะ ได้มาจากแหวน สร้อยข้อมือ สามารถหลอมกลายเป็นทองแท่งกลับขึ้นมาใหม่ได้ และหากตามข่าวเศรษฐกิจราคาทองคำมักจะสูงขึ้นซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย นั้นคือสาเหตุที่ว่าเราควรต้องมีเครื่องประดับซื้อไว้ลงทุน นั้นเอง
3.เสริมลุคเพื่อความมั่นใจ
จะเห็นได้ว่า เครื่องประดับมักจะสำคัญและเหมาะในการสวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ เพราะใส่แล้ว มีความรู้สึกงดงาม ดูโดดเด่น และเสริมความมั่นใจ ให้ตัวคุณเองด้วยเครื่องประดับชิ้นโปรดของคุณ
4.รสนิยมและไลฟ์สไตล์
แน่นอนว่าเหตุผลของการเลือกเครื่องประดับสักชิ้น จะเป็นสัญลักษณ์ในการบ่งบอกถึง ความเป็นตัวตน รสนิยม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลและจะถูกแบ่งตามเจนเนอร์เรชั่น(Generation) และไลฟ์สไตล์ของทุก Generation โดยแบ่งเป็น 3 เจนเนอร์เรชั่น (Generation) คือ Baby boomer เน้น “หรูหรา ใส่ใจคุณภาพ” จริงอยู่ที่ว่า Gen นี้เน้นซื้อการลงทุนในอนาคต แต่ก็ซื้อเพื่อความสวยงามแม้จะแพงแต่ในอนาคตก็มีโอกาสที่จะได้กำไรมากขึ้น
ต่อมา GEN X เป็น GEN ที่เน้นความทันสมัย เสริมบุคคลิกภาพ โดยใน GEN นี้มีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการซื้อเครื่องประดับมากขึ้น อาศัยการโฆษณาผ่านโชเชี่ยลมีเดียตามช่องทางต่าง ๆ สุดท้าย GEN Y บอกเลยว่าแตกต่างกับ GEN ก่อนหน้าแต่เน้นดีไซน์ที่เก๋ ๆ ดีไซน์โดนใจและถึงราคาที่ไม่ต้องสูงมากเกินไป
5.คุณค่าทางจิตใจ
เครื่องประดับบางชิ้นราคาอาจจะไม่สูงมากแต่หากเทียบกับมูลค่าทางจิตใจ แน่นอนว่ามูลค่าของมันมากกว่าตัวเงินที่เสียไป แต่หากมองในมุมของครอบครัวมันอาจจะแทนด้วย “ความรัก ความทรงจำ” ที่คุณอยากส่งต่อเครื่องประดับที่มีค่าให้แก่ลูกหลานของคุณต่อไป
ที่มา https://eclecticartisans.com/news-5-reasons-why-jewelry-is-important-to-modern-day-women